รถไฟไหม้เกิดจากอะไร สัญญานเตือนก่อนเกิดเหตุที่ต้องระวัง

เขียนเมื่อวันที่ 16/03/2022

ไฟไหม้รถ เกิดจากสาเหตุอะไร ป้องกันได้ไหม

ไฟไหม้รถยนต์เป็นอีกหนึ่งอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับรถยนต์ของตนแน่นอน แต่ช่วงที่ผ่านมามีข่าวเกิดเหตุไฟไหม้รถอยู่เป็นระยะ ทำให้หลายคนพยายามหาสาเหตุว่ารถไฟไหม้เกิดจากอะไร เพราะบางครั้งรถที่ไฟไหม้ก็เป็นรถที่เพิ่งใช้งานมาไม่กี่ปี เมื่อเป็นแบบนี้แล้วเกิดไฟไหม้ได้อย่างไร วันนี้ HUGS Insurance จะพาทุกคนไปหาคำตอบว่า สาเหตุหลักที่รถไฟไหม้เกิดจากอะไร มีสัญญาณเตือนหรือไม่ ไฟไหม้รถต้องดับยังไง วิธีป้องกันเหตุไฟไหม้รถยนต์ ตลอดจนรถไฟไหม้ประกันภัยรถยนต์จ่ายเงินชดเชยความเสียหายแบบไหนมาดูกัน

ไฟไหม้รถยนต์ เกิดจากสาเหตุใดบ้าง

ระบบน้ำมันเชื้อเพลิงรั่ว

การรั่วไหลของน้ำมันเชื้อเพลิงถือเป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ที่ทำให้เกิดเหตุไฟไหม้รถยนต์ เนื่องจากน้ำมันเชื้อเพลิงรถยนต์มีจุดเผาไหม้ต่ำ เมื่อมีการรั่วไหลออกมาและกระทบเข้ากับเครื่องยนต์ที่กำลังร้อนจนทำให้เกิดประกายไฟก็เป็นสาเหตุให้รถไฟไหม้ทั้งคันได้ ดังนั้นหากได้กลิ่นน้ำมันขณะขับรถให้รีบหาที่จอดรถและออกจากรถในทันที

ระบบไฟฟ้าขัดข้อง

เกิดจากแบตเตอรี่ทำงานผิดปกติหรือปลอกหุ้มสายไฟภายในรถยนต์ชำรุด ทำให้เกิดการช็อตหรือมีประกายไฟจนเกิดเป็นเหตุไฟไหม้รถในที่สุด

เครื่องยนต์ทำงานหนักจนโอเวอร์ฮีท

อาการเครื่องรถยนต์มีความร้อนสูงผิดปกติหรือโอเวอร์ฮีท ส่วนใหญ่มีสาเหตุหลัก ๆ คือระบบช่วยระบายความร้อนทำงานหนักมากเกินไปจนไม่สามารถรักษาอุณหภูมิเครื่องยนต์ให้อยู่ในระดับปกติได้ ส่งผลให้เครื่องยนต์เกิดโอเวอร์ฮีทจนติดไฟนั่นเอง

ของเหลวภายในรั่ว

นอกจากน้ำมันเชื้อเพลิงแล้ว ภายในรถยนต์ยังมีของเหลวที่มีจุดเผาไหม้ต่ำที่ผู้ใช้รถต้องพึงระวัง ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก หรือน้ำยาหล่อเย็น หากเกิดการรั่วไหลแล้วไปกระทบเข้ากับเครื่องยนต์ที่กำลังทำงานอยู่อาจเป็นสาเหตุให้เกิดประกายไฟและลุกไหม้ได้

การบำรุงรักษาที่ไม่เหมาะสม

การนำรถยนต์เข้ารับการตรวจสภาพอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม นอกจากช่วยยืดอายุการใช้งานของรถยนต์ ยังทำให้รู้ว่าคุณควรเปลี่ยนอะไหล่รถยนต์ชิ้นใดบ้าง เพื่อให้รถอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์เหมาะกับการใช้งานมากที่สุด เช่น แบตเตอรี่ ยางรถยนต์ ที่ปัดน้ำฝน ไส้กรองอากาศ หรือผ้าเบรก เป็นต้น เพราะความเสียหายเพียงเล็กน้อยที่คุณมองข้ามอาจทำให้เกิดไฟไหม้ได้

ของในรถเกิดลุกไหม้

บางครั้งสิ่งของที่วางทิ้งไว้ภายในรถก็เป็นสาเหตุของไฟไหม้รถยนต์ได้เช่นเดียวกัน อย่างสเปรย์กระป๋อง ขวดน้ำหอมที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ผสมอยู่มาก Power Bank ไฟแช็ค โทรศัพท์มือถือ ตลอดจนสายชาร์จอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐาน

หมั่นตรวจเช็คสภาพรถ เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่และป้องกันเหตุไม่คาดฝัน

ขับอยู่ดี ๆ รถเกิดไฟไหม้ ควรปฏิบัติอย่างไร

• เมื่อสังเกตเห็นความผิดปกติอย่างได้กลิ่นน้ำมันเชื้อเพลิงจากรถยนต์ขณะขับหรือมีกลุ่มควันออกมาจากฝากระโปรงรถ ให้ผู้ขับขี่พยายามนำรถจอดข้างทางแล้วดับเครื่องยนต์ทันที แต่ถ้าไม่สามารถนำรถเข้าข้างทางได้ให้เปิดไฟฉุกเฉินแล้วจอดรถ
• หากพบว่ามีไฟลุกเพียงเล็กน้อย เบื้องต้นให้ใช้ถังดับเพลิงเคมีฉีดพ่นบริเวณต้นเพลิงด้วยความระมัดระวัง
• แต่ถ้าไม่สามารถควบคุมไฟได้ ให้รีบออกไปอยู่ในระยะห่างที่ปลอดภัยแล้วโทรขอความช่วยเหลือที่เบอร์สายด่วนฉุกเฉิน อย่างเบอร์ 191 ติดต่อแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือศูนย์รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ที่เบอร์ 199

วิธีป้องกันไม่ให้ไฟไหม้รถยนต์

• เติมน้ำภายในหม้อน้ำให้อยู่ในระดับที่พอดีและหมั่นตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ 
• ตรวจสอบท่อน้ำมันเชื้อเพลิงว่ามีรอยรั่วและสิ่งแปลกปลอมหลุดลอดเข้าไปหรือไม่ ขณะเดียวกันรถยนต์ที่ใช้แก๊สตามข้อต่อของท่อแก๊สต้องไม่มีรอยรั่วเช่นเดียวกัน
• ตรวจสอบใต้ท้องรถว่าไม่มีรอยน้ำมันรั่วซึมหยดลงที่พื้น หากมีคราบให้นำรถเข้าตรวจสอบหารอยรั่วทันที
• หากเปิดกระโปรงหน้ารถแล้วสังเกตเห็นเขม่าดำติดอยู่โดยรอบ หมายความว่าเครื่องยนต์ทำงานผิดปกติ ให้รีบนำรถเข้าตรวจทันที
• ปลอกหุ้มสายไฟในรถยนต์หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ หากมีรอยฉีกขาดหรือหลุดลอกให้รีบทำการเปลี่ยนโดยเร็วที่สุด
• ไม่ใส่ของไว้ในรถยนต์มากเกินความจำเป็น รวมถึงระมัดระวังการทิ้งสิ่งของบางอย่างไว้บนรถ

รถยนต์ไฟไหม้ ประกันภัยคุ้มครองหรือไม่

นี่เป็นคำถามที่ผู้ใช้รถหลายคนสงสัยว่าประกันภัยรถยนต์คุ้มครองครอบคลุมเหตุไฟไหม้รถยนต์หรือไม่ ? คำตอบคือคุ้มครองเฉพาะประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 2+ และประกันภัยรถยนต์ ชั้น 2 เท่านั้น โดยบริษัทประกันแบ่งความรับผิดชอบความเสียหายจากเหตุไฟไหม้รถยนต์เป็น 2 กรณี

1. กรณีเสียหายสิ้นเชิง

เป็นกรณีที่รถยนต์ได้รับความเสียหายจากเหตุไฟไหม้เกินกว่า 70% ของสภาพรถ หรืออยู่ในระดับที่ไม่สามารถซ่อมแซมรถให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิมได้นั่นเอง โดยกรณีเสียหายสิ้นเชิงทางบริษัทประกันจะจ่ายค่าเสียหายให้เต็มจำนวน 100% ของทุนประกันสูงสุดตามที่ได้ระบุไว้ในกรมธรรม์

2. กรณีเสียหายบางส่วน

คือกรณีที่รถยนต์ได้รับความเสียหายไม่รุนแรงมาก สามารถซ่อมแซมให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิมได้ โดยกรณีนี้ผู้ขับขี่อาจต้องเลือกว่าต้องการซ่อมรถให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม หรือรับเงินชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นแทน

เมื่อรถไฟไหม้ไม่ใช่เรื่องไกลตัว หากคุณหมั่นตรวจสภาพรถยนต์ให้มีสภาพที่ดีอยู่เสมอก็ช่วยลดโอกาสเกิดเหตุไม่คาดฝันได้ แต่จะดีกว่าไหม ถ้ามีประกันภัยรถยนต์มาเสริมความอุ่นใจยามเกิดเหตุด่วนเหตุร้ายดังกล่าว หากคุณสนใจทำประกันรถยนต์ แต่ไม่รู้ว่าแผนประกันภัยแบบไหนของบริษัทใดถึงตอบโจทย์การใช้รถ ฮักส์ยินดีให้คำปรึกษาเพราะเราเป็นโบรกเกอร์ที่รวมประกันภัยรถยนต์จากบริษัทชื่อดังเอาไว้มากมาย พร้อมตอบทุกคำถามที่คุณสงสัยไม่ว่าจะเป็นเรื่องความคุ้มครองหรือการเปรียบเทียบค่าเบี้ยประกัน เพื่อให้คุณได้ประกันภัยรถยนต์ที่คุ้มค่าที่สุด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ Facebook: HUGS Insurance หรือทางช่องทางไลน์ @hugsinsurance หรือโทร 0 2975 5855