5 โรคฮิตติดเทรนด์ ที่มาพร้อมไลฟ์สไตล์ใหม่ของคนยุคนี้

เขียนเมื่อวันที่ 14/06/2021

โลกในยุคปัจจุบันที่ทุกอย่างเชื่อมถึงกันด้วยเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ชีวิตเราง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส คนส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่กับหน้าจอมือถือ และคอมพิวเตอร์ อีกทั้งการแข่งขันสูงทำให้ต้องใช้ชีวิตกันอย่างเร่งรีบ รู้หรือไม่เพื่อนๆ อาจกำลังตกเป็น 1 ในโรคยอดฮิตติดเทรนด์ที่มาพร้อมกับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปแล้วก็ได้ ตามฮักส์มาเช็กตัวเองไปพร้อมกันเลย

1. ออฟฟิศซินโดรม

โรคยอดฮิตอันดับหนึ่งนั่นก็คือ โรคออฟฟิศซินโดรม เกิดจากการใช้เวลานั่งทำงานอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์นานเกินไป เลยส่งผลต่อการทำงานของระบบกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดอาการอักเสบ หรือปวดร้าวได้ เช่น ปวดไหล่ บ่า คอ หรือปวดหลัง และบ่อยครั้งจะมีอาการปวดศีรษะร่วมด้วย

อาการเหล่านี้คุ้นๆ กันหรือเปล่า ถ้าเพื่อนๆ เริ่มมีอาการแล้วละก็ลองปรับท่านั่งในการทำงานใหม่ดูสิ ให้ความสูงของโต๊ะและเก้าอี้อยู่ในระดับการมองเห็นที่เหมาะสม ลองลุกออกไปเดินเล่นดูบ้างเพื่อผ่อนคลายอย่างน้อย 15-20 นาที และที่สำคัญเพื่อนๆ อย่าลืมออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ให้กล้ามเนื้อเราแข็งแรงด้วยนะ

2. เริมที่ริมฝีปาก

ช่วงนี้ทำงานหนักไป ไม่มีเวลาพักผ่อนหรือเปล่า ถ้าใช่เพื่อนๆ อาจกำลังเสี่ยงเป็นอีกหนึ่งโรคที่คนส่วนใหญ่มักจะมองข้ามไปนั่นคือ โรคเริมที่ริมฝีปาก สาเหตุหลักมาจากร่างกายของเรากำลังอ่อนแอลง เพราะไม่ได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ เครียด และดื่มน้ำน้อย ทำให้ติดเชื้อไวรัสได้ อาการจะมีตุ่มน้ำใสขึ้นบริเวณที่ติดเชื้อ และมีอาการ แสบคันที่บริเวณแผล

เพื่อนๆ หลีกเลี่ยงปัญหานี้ได้ โดยการพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รักษาความสะอาดของร่างกายและหลีกเลี่ยงการสัมผัสและใช้ของร่วมกับผู้อื่น ดูแลตัวเองให้ดีเพราะวันไหนที่เราอ่อนแอลงโรคนี้พร้อมกลับมาได้เสมอ

3. ไมเกรน

ปัจจุบันคนหลายช่วงวัยต้องเผชิญกับความเครียดในหลากหลายรูปแบบ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการใช้ชีวิต เกิดเป็นโรคยอดฮิตอีกโรคอย่าง โรคไมเกรน

สาเหตุหลักหนีไม่พ้นการใช้ชีวิตของเราทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นความเครียดที่เกิดจากการทำงาน การนอนพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ สภาพอากาศที่ร้อน มลภาวะทางเสียงและกลิ่น หรือบางครั้งต้องเผชิญกับแสงสว่างที่มากไป เช็กกันเลยเรามีอาการแบบนี้บ้างไหม ปวดหัวตุ๊บๆ ด้านใดด้านหนึ่งและรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ปวดติดต่อกันนานหลายชั่วโมง บางคนอาจมีการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย

ถ้ามีอาการตามด้านบนแล้วละก็ เพื่อนๆ ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ อาทิ ความเครียด ควรสังเกตตัวเองอยู่เสมอหากเริ่มมีความเครียดเกิดขึ้นควรหาสิ่งที่ช่วยผ่อนคลาย หรือหาเวลาพัก รวมทั้งปรับเปลี่ยนเวลาการนอนเพื่อให้ร่างกายพักผ่อนได้เต็มที่ด้วยนะ

4. กระเพาะปัสสาวะอักเสบ

บางครั้งการทำงานต่อเนื่องเป็นเวลานาน หรือต้องทนกับรถติดในเมืองใหญ่ทำให้หลายคนหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องกลั้นนปัสสาวะ แต่รู้ไหมการทำแบบนี้ส่งผลให้เกิดโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้นะ

สาเหตุมาจากเรากลั้นปัสสาวะไว้นานทำให้เชื้อแบคทีเรียในระบบทางเดินปัสสาวะเติบโตได้ดี หรือบางคนทำความสะอาดไม่ถูกวิธีก็อาจทำให้ติดเชื้อได้ เพื่อนๆ เช็กดูว่ามีอาการเหล่านี้หรือเปล่า ปัสสาวะทีละน้อยๆ แต่บ่อยครั้ง มีอาการคล้ายถ่ายปัสสาวะไม่สุด รู้สึกปวดบริเวณท้องน้อย ปวดแสบ ขัด ขณะปัสสาวะโดยเฉพาะตอนปัสสาวะสุด

อย่าปล่อยไว้หากเริ่มมีอาการเหล่านี้ เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตดูใหม่ และรักษาความสะอาดของอวัยวะสำคัญอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการลุกลามของโรคนี้

5. กรดไหลย้อน

ด้วยการใช้ชีวิตที่ต้องแข่งกับเวลา ทั้งการทำงานและการทำกิจวัตรประจำวัน ทำให้หลายๆ คนละเลยการรับประทานอาหาร นอกจากนี้การทานอาหารไม่ตรงเวลา การทานอาหารมากเกินไป รวมถึงการนอนทันทีหลังทานอาหารเสร็จ ส่งผลให้เกิดโรคยอดฮิตอีกโรคอย่าง โรคกรดไหลย้อน โดยมีอาการแสบร้อนกลางอก จุก เสียด แน่นท้อง เรอเปรี้ยวหลังทานอาหารเสร็จ ซึ่งอาการเหล่านี้อาจดูไม่ร้ายแรง แต่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก

เพื่อนๆ สามารถหลีกเลี่ยงด้วยการทานอาหารให้ตรงเวลาในปริมาณที่เหมาะสม และไม่ควรนอนทันทีหลังทานอาหารเสร็จ ควรหากิจกรรมทำเพื่อให้อาหารย่อยเสียก่อน เช่น เดิน หรือนั่งดูโทรทัศน์ ก็ได้นะ

เป็นอย่างไรกันบ้างกับโรคฮิตและการดูแลตัวเองที่ฮักส์แนะนำกันไปวันนี้ เพื่อนๆ คงเห็นแล้วว่าเทคโนโลยีนำมาซึ่งผลดี และผลเสีย นอกเหนือจากที่เราแนะนำไปข้างต้น หากเพื่อนๆ อาการไม่ดีขึ้นอย่ารอช้ารีบเข้ารับการดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ส่วนค่ารักษาพยาบาลประกันสุขภาพจะช่วยเพื่อนๆ ได้ ให้ฮักส์เคียงข้างทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ให้ทุกคนได้สนุกกับชีวิตในแบบที่ตัวเองชอบอย่างเต็มที่