8 วิธีขับรถหน้าฝนให้ปลอดภัย ลดความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ
เขียนเมื่อวันที่ 15/06/2021
ข้อควรระวัง ขับรถขณะฝนตกแบบไหนให้ปลอดภัย
เข้าสู่ช่วงหน้าฝนเช่นนี้ การเดินทางด้วยรถยนต์ยังเป็นสิ่งที่จำเป็นในการเดินทางแต่สิ่งที่จำเป็นสำหรับคนใช้รถใช้ถนนในช่วงหน้าฝน คือการระมัดระวังในการขับขี่รถยนต์ให้มีความปลอดภัยทั้งกับตนเอง และผู้ร่วมใช้รถใช้ถนน เนื่องจากฝนตกลงมาทำให้ถนนลื่น และทัศนวิสัยในการมองเห็นที่ไม่ชัดเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย รวมถึงช่วงหน้าฝนเป็นช่วงที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ดังนั้นการเตรียมความพร้อมให้แก่ตนเองและรถยนต์ก่อนขับขี่เดินทางในช่วงหน้าฝนจึงจำเป็นอย่างมาก ฮักส์จึงมีคำแนะนำดี ๆ สำหรับเทคนิค ขับรถหน้าฝนและเดินทางในช่วงหน้าฝน ให้ห่างไกลอุบัติเหตุและอันตรายหน้าฝนมาฝาก
คำแนะนำเกี่ยวกับการขับรถในหน้าฝนสามารถปรับใช้ได้กับการขับรถในทุก ๆ ฤดูกาล เพราะการขับรถทุกประเภทจะต้องเน้นความไม่ประมาท เนื่องจากอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ผู้ขับขี่จะต้องมีความพร้อม รู้กฎหมายจราจรเป็นอย่างดี ไม่มีโรคประจำตัวที่ห้ามขับรถ และไม่มีอาการอ่อนเพลียสะสมที่อาจเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุได้ รวมถึงมีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์อย่างถูกต้อง การขับรถกลางสายฝนจะลำบากกว่าสภาพอากาศแบบอื่น ๆ ในประเทศไทย ต่อให้ชำนาญก็ควรปฏิบัติตามคำแนะนำที่จะกล่าวในลำดับต่อไป
วิธีขับรถหน้าฝน รู้ไว้ปลอดภัยแน่นอน
การขับขี่รถยนต์บนท้องถนนในช่วงฝนตก มีข้อควรระวังและสิ่งที่ต้องเตรียมความพร้อมอยู่เสมอ พร้อมวิธีการขับขี่รถในช่วงหน้าฝน ดังนี้
ขับรถตอนฝนตกอย่างระมัดระวัง
1.ตรวจเช็คสภาพรถยนต์ช่วงหน้าฝนให้พร้อม
การตรวจเช็คสภาพรถยนต์จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้แก่คุณก่อนนำรถยนต์ออกไปขับขี่ เช่น การเช็คระบบไฟว่าสามารถใช้งานได้ครบทุกดวงหรือไม่ เช็คสภาพยางปัดน้ำฝนว่าสามารถรีดน้ำได้ดีไหมหรือมีการเสื่อมสภาพของยางปัดน้ำฝน เช็คแรงดันลมยางรวมถึงดอกยางว่าสามารถยึดเกาะถนนได้ดีไหม และ ตรวจสอบระบบเบรคของรถใช้มีความขัดข้องหรือไม่
2.ลดการใช้ความเร็วในการขับขี่
เนื่องจากในยามที่ฝนตกหนักก็ทำให้บดบังทัศนวิสัยในการขับขี่ รวมถึงถนนที่ลื่น ดังนั้นในการขับขี่ควรเลือกใช้ความเร็วที่เหมาะสม ไม่ขับรถเร็วจนเกินไปเพราะอาจทำให้รถเสียหลักเกิดอุบัติเหตุได้
3.ใช้น้ำยาฉีดกระจกช่วยชะล้างในช่วงฝนตกใหม่ ๆ
ในช่วงฝนตกใหม่ ๆ น้ำที่กระเด็นมาจากการดีดของรถคันหน้า คันข้าง ๆ ล้วนแล้วแต่มาพร้อมดินโคลนและความสกปรก ดังนั้นการใช้น้ำยาฉีดกระจกช่วยทำความสะอาดรถจะทำให้กระจกหน้ารถของเราสะอาดขึ้น เพราะหากใช้ที่ปัดน้ำฝนอย่างเดียวอาจทำให้เกิดคราบบดบังขณะขับขี่ได้
4.อย่าเหยียบเบรกกระทันหัน
การขับขี่รถยนต์ในช่วงฝนตกสิ่งที่ควรระวังคือการเหยียบเบรคกระทันหัน เพราะถนนมีความลื่นจากน้ำฝนการเหยียบเบรคกระทันหันทำให้มีความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุสูงขึ้น และไม่ควรขับชิดคันหน้าจนเกินไป โดยเว้นระยะห่างเพิ่มเป็น 2 เท่าในช่วงเวลาที่ฝนตกหนัก
5.หากต้องขับผ่านจุดน้ำท่วมขังควรปิดแอร์ และใช้เกียร์ต่ำ
บางจุดบนท้องถนนมักจะเกิดน้ำขังมีตั้งแต่ระดับน้ำที่ต่ำและระดับน้ำที่สูง โดยควรสังเกตระดับความสูงของน้ำที่ท่วมขังจากรถคันหน้า และลดความเร็วของการขับขี่ลง หากน้ำท่วมขังสูงและจำเป็นต้องขับรถลุยผ่านน้ำท่วมนั้น สิ่งที่ควรทำคือการปิดแอร์ในรถยนต์และใช้เกียร์ต่ำ เพื่อไม่ให้รอบเครื่องยนต์ต่ำและน้ำไหลย้อนเข้าสู่ท่อไอเสีย จนอาจสร้างความเสียหายให้แก่รถยนต์ได้
6.เปิดไฟหน้า-หลังรถอยู่เสมอ
เพราะในช่วงฝนตกท้องฟ้าจะมีความมืดครึ้ม รวมถึงเม็ดฝนที่เทลงมาบดบังทัศนวิสัยในการมองเห็นขณะขับขี่ การเปิดไปหน้ารถและหลังรถ นอกจากจะช่วยให้สามารถมองเห็นเส้นทางที่ชัดเจนขึ้น ยังช่วยให้รถยนต์คันอื่นเห็นรถของเราได้ชัดเจนขึ้นเช่นกัน
7.ปรับระดับความเร็วของที่ปัดน้ำฝนให้เหมาะสม
ขณะขับขี่รถยนต์ในช่วงฝนตกสิ่งที่ควรทำคือการปรับระดับความเร็วของที่ปัดน้ำฝนให้มีความเร็วที่มีความสัมพันธ์กับความแรงและปริมาณของฝนที่ตกลงมาว่าควรปรับให้อยู่ในระดับใด
8.ไล่ฝ้ากระจกหลัง
เมื่อฝนตกทำให้อุณหภูมิในรถยนต์ และด้านนอกแตกต่างกันอาจทำให้เกิดฝ้าในรถยนต์ขึ้นได้โดยเฉพาะบริเวณกระจกหลัง สามารถกดไล่ฝ้าบริเวณกระจกหลังได้ หรือควรเพิ่มแอร์ให้เย็นขึ้นอีกนิดเพื่อให้อุณหภูมิในรถ และนอกรถสัมพันธ์กันจะได้ไม่เกิดฝ้าในขณะขับขี่