ข้อควรรู้ก่อนทำประกันภัยอุบัติเหตุ เลือกให้คุ้มที่สุด
เขียนเมื่อวันที่ 15/06/2021
ประกันภัยอุบัติเหตุซื้อแล้ว คุ้มครองอะไรบ้าง
แม้เราใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง อุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นกับทุกคนได้ตลอดเวลา ไม่ว่าเป็นอุบัติเหตุเล็ก ๆ อย่างถูกมีดบาด เตะมุมโต๊ะ ประตูหนีบนิ้ว น้ำร้อนลวก ที่แค่ทำแผลทายาแล้วก็หาย หรืออุบัติเหตุหนัก เช่น หกล้มแขนหักที่ต้องใช้เวลารักษานาน หรือของแข็งหล่นใส่ศีรษะจนทำให้กะโหลกศีรษะร้าว แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาหลังเกิดอุบัติเหตุ คือ ค่ารักษาพยาบาล จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับโรคหรืออาการของผู้ป่วย และคงดีไม่น้อยถ้ามี "ประกันภัยอุบัติเหตุ" มาช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายตรงนี้
และอย่างที่ทราบกันดีว่าอุบัติเหตุมักไม่มีการแจ้งเตือนล้วหน้า หากเกิดเจ็บหนักต้องรักษาอาการอย่างเร่งด่วน หรือมีการติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง เท่ากับว่าอาจทำให้มีค่าใช้จ่ายสูง เพราะฉะนั้นการทำประกันภัยอุบัติเหตุจึงมีส่วนช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายได้ไม่มากก็น้อย ที่สำคัญคือพร้อมให้ความคุ้มครองตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งในกรณีบาดเจ็บน้อยหรือร้ายแรง นอกจากนี้ยังได้รับค่าชดเชยรายวันเนื่องจากไม่สามารถทำงานได้ โดยชดเชยเริ่มต้นที่ 1,000-3,000 บาท ถือเป็นอีกหนึ่งประกันภัยดี ๆ ที่ควรมีติดไว้เพราะอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่า อุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา และอาจไม่มีสัญญาณแจ้งเตือนล่วงหน้า
แต่ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยอุบัติเหตุ ยังมีหลายเรื่องที่ควรรู้ และพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้แผนประกันภัยอุบัติเหตุที่มอบความคุ้มครองที่ครอบคลุมและคุ้มค่าที่สุด ส่วนจะมีเรื่องอะไรบ้างนั้น ตามมาดูกัน
ประกันภัยอุบัติเหตุ คืออะไร
ประกันภัยอุบัติเหตุ หรือศัพท์ของประกันภัยเรียกว่า ประกันภัย PA คือ ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองต่อผู้เอาประกันภัยในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยประสบอุบัติเหตุได้รับความบาดเจ็บทางร่างกาย ถ้าอาการบาดเจ็บนั้นส่งผลให้ผู้เอาประกันภัยต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล หรือรุนแรงถึงขั้นทุพพลภาพ สูญเสียอวัยวะ หรือเสียชีวิต ค่าใช้จ่ายตรงส่วนนี้บริษัทประกันภัยเข้ามารับภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น รวมถึงจ่ายค่าทดแทนให้ผู้เอาประกันภัยกรณีสูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิตด้วย
ทั้งนี้ตามหลักประกันภัยอุบัติเหตุ จะแบ่งความคุ้มครองออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
อุบัติเหตุ 1 (อบ.1) : คุ้มครองการเสียชีวิต การสูญเสียอวัยวะ ตาบอด หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงที่ทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
อุบัติเหตุ 2 (อบ.2) : คุ้มครองการเสียชีวิต การสูญเสียอวัยวะ เช่น มือ เท้า นิ้ว บางส่วน สูญเสียการได้ยิน ไปจนถึงทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง
ประกันภัยอุบัติเหตุ มีกี่ประเภท
ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (Personal Accident)
ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล หรือที่นิยมเรียกกันว่า ประกันภัยพีเอ (PA) เป็นประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองชีวิตและร่างกายของผู้เอาประกันภัย กรณีประสบอุบัติเหตุในสถานที่ต่าง ๆ ทั่วโลก ตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีระยะเวลาคุ้มครอง 1 ปี ทั้งนี้ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลยังสามารถเลือกทำประกันภัยรายบุคคล หรือเป็นกลุ่มก็ได้ อาทิ กลุ่มครอบครัว หรือกลุ่มธุรกิจ เป็นต้น
ประกันภัยอุบัติเหตุการเดินทาง (Travel Accident)
เป็นการประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองแก่ผู้เอาประกันภัยหากผู้เอาประกันภัยประสบอุบัติเหตุ และผลของอุบัติเหตุนั้นส่งผลให้บาดเจ็บจนต้องได้รับการรักษาพยาบาล หรือสูญเสียอวัยวะ มือ เท้า และสายตา หรือเสียชีวิต แต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นต้องเกิดขึ้นภายในระยะเวลาระหว่างการเดินทางที่กำหนดไว้เท่านั้น
ข้อควรรู้ก่อนทำประกันภัยอุบัติเหตุ มีอะไรบ้าง ?
อุบัติเหตุลื่นตกบันได เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ได้รับความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลตาม ประกันภัยอุบัติเหตุ
ช่วยลดค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
นี่ถือเป็นหนึ่งในข้อดีของการทำประกันภัยอุบัติเหตุ คือ บริษัทประกันภัยเข้าช่วยแบ่งเบาภาระค่ารักษาพยาบาลเมื่อผู้เอาประกันภัยเกิดอุบัติเหตุขึ้น
เบี้ยประกันภัยค่อนข้างคงที่และมีราคาไม่แพง
สำหรับอัตราเบี้ยประกันภัยอุบัติเหตุค่อนข้างคงที่ ซึ่งแตกต่างจากเบี้ยระกันภัยสุขภาพปที่มีการปรับเพิ่มขึ้นทุกปี และค่าเบี้ยประกันภัยยังมีราคาที่ไม่แพง
ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล
แม้เกิดอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อย ไม่จำเป็นต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลก็สามารถใช้ประกันภัยอุบัติเหตุเพื่อเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล
ให้ความคุ้มครองทั่วโลก ตลอด 24 ชม.
กรณีทำประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล ไม่ว่าเกิดอุบัติเหตุขึ้นระหว่างกำลังเดินทาง พักผ่อน หรือท่องเที่ยว ประกันภัยอุบัติเหตุพร้อมดูแลผู้เอาประกันภัยในทุกย่างก้าว ทำให้คุณสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาล หรือค่าชดเชยอื่น ๆ ได้ทั่วโลก
ประกันภัยอุบัติเหตุไม่ได้คุ้มครองทุกอาชีพ
ประกันภัยอุบัติเหตุยกเว้นความคุ้มครองในบางอาชีพ โดยเฉพาะอาชีพที่มีความเสี่ยงสูง อย่าง วิศวกร ช่างไฟฟ้า สถาปนิก หรืออาชีพที่ต้องใช้อุปกรณ์และเครื่องมือในการทำงาน เป็นต้น ส่วนประเภทอาชีพที่รับทำประกันภัยอุบัติเหตุ แบ่งได้ 4 ประเภท โดยไล่ลำดับจากความเสี่ยงต่ำไปจนถึงความเสี่ยงสูง ประกอบด้วย
- อาชีพประเภทที่ 1 : เป็นพนักงานสำนักงาน หรือบุคคลทั่วไปที่ทำงานในตัวอาคาร ออฟฟิศ และมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุน้อยสุด ราคาเบี้ยประกันภัยจึงไม่แพง
- อาชีพประเภทที่ 2 : บุคคลที่ต้องทำงานกลางแจ้งตลอดเวลา และมีความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุระดับปานกลาง
- อาชีพประเภทที่ 3 : ผู้ปฏิบัติงานด้านช่าง หรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรกล งานใช้แรงงานเป็นหลัก หรือจำเป็นต้องเดินทางทำงานข้างนอกทุกวัน จึงมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุค่อนข้างสูง
- อาชีพประเภทที่ 4 : เป็นบุคคลที่ประกอบอาชีพเสี่ยงภัยสูง ได้แก่ นักแข่งรถ นักปีนเขา นักมวย นักบิน ชาวประมง หรือวิศวกรแท่นขุดเจาะน้ำมัน เป็นต้น
ประกันภัยอุบัติเหตุแตกต่างจากประกันภัยสุขภาพ
เนื่องจากประกันภัยอุบัติเหตุให้ความคุ้มครองเฉพาะความเจ็บป่วยที่มีสาเหตุมาจากอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นพัดลมบาด น้ำร้อนลวก สุนัขกัด แมวข่วน ผึ้งต่อย หรือหัวเข่าเฉี่ยวชนตอนซ้อนมอเตอร์ไซค์ รวมถึงกรณีฟันแตก ฟันบิ่นจากการลื่นหกล้ม หัวแตกจากการเล่น Surf Skate เป็นต้น รวมทั้งให้ความคุ้มครองครอบคลุมไปถึงกรณีสูญเสียอวัยวะ สูญเสียการได้ยิน จนไม่สามารถประกอบอาชีพได้ด้วย ซึ่งแตกต่างจากประกันภัยสุขภาพที่เน้นคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากอาการเจ็บป่วยที่เกิดจากโรคภัยไข้เจ็บ
พอเป็นเช่นนี้ สรุปได้ว่า ประกันภัยอุบัติเหตุและประกันภัยสุขภาพ ล้วนถูกออกแบบมาให้ช่วยแบ่งเบาภาระค่ารักษาพยาบาลของผู้เอาประกันภัยเหมือน ๆ กัน เพียงแต่มีขอบเขตความคุ้มครองที่ไม่เหมือนกันเท่านั้น และเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การตัดสินใจทำประกันภัยติดไว้สักฉบับตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็ช่วยเพิ่มความอุ่นใจได้ว่า หากเกิดเหตุร้ายคุณจะมีผู้ช่วยคอยจัดการปัญหาต่าง ๆ ให้โดยไม่ต้องมาคอยพะวงเรื่องค่าใช้จ่าย
เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ใครที่อยากได้คำปรึกษาเรื่องประกันภัยอุบัติเหตุ เพื่อให้ได้แผนประกันภัยที่ดีที่สุดตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตน ฮักส์ยินดีและพร้อมให้คำตอบกับทุกคำถามของคุณ สามารถโทรสอบถามได้ที่ 0 2975 5855 หรือทักมาได้ที่ Facebook หรือ Line มาพูดคุยกัน และถ้าอยากเปรียบเทียบแผนประกันภัยด้วยตนเอง ฮักส์ก็พร้อมให้บริการเช่นเดียวกัน
อ้างอิงข้อมูล : สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)