6 วิธีวางแผนการเงินมนุษย์เงินเดือน สร้างความมั่นคงในชีวิต

เขียนเมื่อวันที่ 19/01/2022

ใช้จ่ายไม่เกินตัวหากรู้จักวางแผนการเงินให้ดี

การวางแผนการเงินเป็นขั้นตอนการเก็บเงินเพื่อให้มีเงินก้อนสำหรับใช้จ่ายส่วนตัว ทั้งเป็นเงินทุนสำรองในการเริ่มต้นธุรกิจ เงินค่าใช้จ่ายเมื่อเจ็บป่วยฉุกเฉิน หรือเงินสำหรับพักผ่อนประจำปี การรู้วิธีวางแผนการเงินของมนุษย์เงินเดือนจะช่วยให้เงินเดือนที่ได้ถูกจัดสรรเป็นสัดส่วน สะดวกต่อการเก็บเงิน และควบคุมการใช้จ่ายไม่ให้เกินตัว

เป้าหมายของมนุษย์เงินเดือนจากการทำงาน

การมีเป้าหมายในการทำงานจะเพิ่มไฟในการทำงาน เพราะรู้ว่างานที่ทำเพื่อส่งตัวเองไปให้ถึงเป้าหมายที่ได้ตั้งเอาไว้ มนุษย์เงินเดือนมักจะมีเป้าหมายหลัก ๆ ดังนี้

• ความมั่นคง

การทำงานมักจะมีเป้าหมายเพื่อความมั่นคงในชีวิต โดยความมั่นคงนี้มาจากตำแหน่งและเงินเดือน เมื่อมีตำแหน่งสูงขึ้นในหน้าที่การงาน การขอเครดิตสำหรับสร้างสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตจะง่ายมากยิ่งขึ้น คนทำงานจึงคำนึงถึงความมั่นคงในชีวิตการทำงานด้วย

• ความมีฐานะ

เงินเดือนเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างฐานะให้ใหญ่โตขึ้นได้เป็นระลำดับขั้น เงินเดือนมักจะเติบโตตามตำแหน่งและประสบการณ์ในการทำงาน และเงินเดือนยังเป็นสิ่งที่ช่วยจุนเจือครอบครัว การทำงานของมนุษย์เงินเดือนจึงหวังให้เงินเดือนสูงขึ้นเรื่อย ๆ

• การสร้างครอบครัว

ครอบครัวมักจะมาเมื่อมนุษย์รู้สึกพร้อมที่จะมี ความพร้อมในที่นี้มักจะรวมหน้าที่การงานเข้ามาด้วย มนุษย์เงินเดือนจึงทำงานเพื่อเติมความพร้อมให้ตัวเองจนสามารถสร้างครอบครัวได้

เป้าหมายในการทำงานของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะมีเป้าหมายแตกต่างออกไป ทั้งนี้ทั้งนั้น การมีเป้าหมายที่ชัดเจนช่วยให้การทำงานไม่เลื่อนลอย และช่วยให้เกิดการวางแผนการใช้ชีวิตของตนเอง รวมถึงการวางแผนเก็บเงินเพื่ออนาคตด้วย โดยส่วนใหญ่แล้วเป้าหมายหลัก ๆ มักจะมีดังนี้ 

6 วิธีวางแผนการเงิน ให้ได้เงินเก็บตามเป้าหมาย

การเก็บเงินทำให้มีเงินเพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ

วางแผนการเงินเป็นการจัดการกับเงินเดือนให้มีเงินเก็บสำหรับใช้จ่ายตามต้องการเมื่อครบระยะเวลา การเริ่มต้นเก็บเงินสามารถทำได้ดังนี้

1. ตั้งเป้าหมายและระยะเวลาการเก็บเงินที่แน่นอน

เป้าหมายและระยะเวลาจะช่วยกำหนดวิธีการเก็บเงิน เช่น เป้าหมายต้องการซื้อรถภายในระยะเวลา 2 ปี หากรถที่ต้องการราคาไม่สูงมาก การเก็บเงินก็สามารถเลือกเก็บเดือนละน้อย ๆ ได้ แต่หากเป้าหมายมูลค่าสูงขึ้นและระยะเวลาน้อยลง การเก็บเงินก็จะต้องเข้มงวดกับตัวเองมากขึ้นตามไปด้วย 

2. หาวิธีเก็บเงินที่เหมาะกับตนเอง

การเก็บเงินสามารถทำได้หลากหลายวิธีตามความถนัดของแต่ละคน แต่ควรเลือกเก็บตั้งแต่วันที่เงินเดือนออก เพื่อให้ทราบว่าเดือนนั้นมีเงินที่สามารถใช้ได้มากน้อยเพียงใด ป้องกันการใช้เงินเกินจากงบที่กำหนดไว้ในแต่ละเดือน

3. ทำบันทึกรายรับรายจ่ายทุกวัน

การทำบันทึกรายรับรายจ่ายจะช่วยให้เห็นการใช้จ่ายในภาพรวมทุกวัน เมื่อครบรอบแต่ละเดือนให้นำบันทึกรายรับรายจ่ายนั้นมาทบทวนแล้วจะพบค่าใช้จ่ายบางอย่างอาจจะไม่จำเป็น ทำให้เดือนต่อไปเกิดการระมัดระวังการใช้จ่ายในส่วนฟุ่มเฟือย เพื่อให้มีเงินเหลือไว้ทำอย่างอื่นอีก

4. ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออก

ค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นจะมองเห็นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นหลังจากทำบันทึกรายรับรายจ่ายแล้ว ส่วนมากค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นมักจะเป็นค่าขนมระหว่างวัน ค่าสินค้าที่เคยมีอยู่แล้วหรือสินค้าที่ไม่ได้ใช้บ่อย สิ่งเหล่านี้ควรพิจารณาก่อนซื้อเสมอ

5. ทำประกันภัยสุขภาพ

การทำประกันภัยสุขภาพเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพและเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายเมื่อเจ็บป่วยได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาสุขภาพเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หรือเสี่ยงเป็นออฟฟิศซินโดรม และเป็นการเตรียมพร้อมในกรณีที่เป็นโรคร้ายแรงหรือโรคที่ไม่คิดว่าจะเกิดแล้วมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ประกันภัยสุขภาพจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก 

6. ลงทุนเพื่อให้เงินเก็บงอกเงย

นอกจากการเก็บเงินในแต่ละเดือนแล้ว การแบ่งเงินบางส่วนไปลงทุนก็เป็นแนวทางในการเพิ่มเงินเก็บให้มีมูลค่ามากขึ้น หากไม่แน่ใจว่าควรลงทุนอะไรสามารถสอบถามธนาคารได้โดยตรง หรือหากเปิดบัญชีกับธนาคารเอาไว้สามารถเลือกให้ธนาคารลงทุนให้ได้ โดยเลือกความเสี่ยงที่ตนเองรับได้แล้วธนาคารจะเป็นตัวกลางในการนำเงินนั้นไปลงทุน

การวางแผนทางการเงินให้ดีมีประโยชน์มากสำหรับมนุษย์เงินเดือน ช่วยให้เงินเดือนที่ได้กลายมาเป็นเงินสำรองและอาจะเป็นเงินทุนในการสร้างอนาคตให้ตัวเองได้ นอกจากแนวทางการเก็บเงินข้างต้นแล้ว การมีประกันออมทรัพย์ก็เป็นอีกวิธีที่น่าสนใจ เพราะช่วยเก็บเงินได้เป็นระยะเวลานาน สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ ผู้ที่สามารถส่งเงินเข้าประกันออมทรัพย์สม่ำเสมอควรพิจารณาทำประกันประเภทนี้ด้วย ข้อมูลเพิ่มเติมสอบถามฮักส์ได้โดยตรงทาง Facebook, LINE @hugsinsurance หรือโทร 0 2975 5855