ระวัง น้ำหอมในรถทำให้แอร์พัง มีปัญหาสุขภาพตามมา

เขียนเมื่อวันที่ 21/09/2021

ติดน้ำหอมปรับอากาศในรถ อันตรายต่อสุขภาพจริงหรือ

เชื่อว่าผู้ใช้รถจำนวนไม่น้อยเลือกใช้น้ำหอมติดรถยนต์หรือสเปรย์ต่าง ๆ เพื่อดับกลิ่นอับและกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในตัวรถ แต่รู้ไหมว่าการใช้งานน้ำหอมรถยนต์เป็นเวลานานติดต่อกันมีผลเสียต่อระบบปรับอากาศและสุขภาพเช่นกัน และวันนี้ Hugs Insurance จะพาไปไขคำตอบกันว่าอันตรายจากน้ำหอมปรับอากาศในรถ มีอะไรบ้าง 

น้ำหอมติดรถยนต์ทำให้แอร์พังจริงหรือไม่

หลายคนอาจไม่รู้ว่า น้ำหอมติดรถยนต์มีส่วนประกอบของสารระเหยที่เป็นอันตรายต่อระบบปรับอากาศภายในรถไม่น้อยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการบูร พินเสน สารเคมี หรือส่วนประกอบอื่น ๆ ตามสูตรการผลิตน้ำหอมของแต่ละบริษัท เมื่อน้ำมันหอมระเหยกระจายไปในอากาศ แล้วไหลเวียนเข้าสู่ระบบปรับอากาศของรถก่อนไปเกาะติดบริเวณรังผึ้งและกรองแอร์ พอไอระเหยเข้าไปสะสมในปริมาณมากโดยไม่มีการทำความสะอาด ก็เป็นสาเหตุให้แอร์รถยนต์ตันในที่สุด 

สารระเหยในน้ำหอมปรับอากาศเกาะติดคอยล์เย็นแอร์

น้ำหอมติดรถยนต์ ทำให้เกิดกลิ่นอับจริงหรือไม่

แม้น้ำหอมติดรถยนต์มีคุณสมบัติเพิ่มความหอมและลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในรถ แต่ในทางกลับกันน้ำหอมก็สามารถสร้างกลิ่นเหม็นอับได้เช่นกัน เนื่องจากน้ำหอมอาจทำปฏิกิริยากับกลิ่นอับภายในรถยนต์จนก่อให้เกิดกลิ่นแปลกปลอมที่สร้างความเหม็นอับขึ้นมาแทน

น้ำหอมติดรถยนต์ กับ 3 ภัยเงียบทำลายสุขภาพ

น้ำหอมปรับอากาศช่วยดับกลิ่นอับในรถยนต์

(1) มีผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจ

ถึงการใช้งานน้ำหอมติดรถยนต์เพื่อดับกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ภายในรถ แต่หลายคนอาจลืมไปว่าสารประกอบสำคัญในน้ำมันหอมระเหยคือพิมเสน แม้พินเสนมีสรรพคุณในการแก้วิงเวียนศีรษะได้ แต่เมื่อผู้ใช้รถสูดดมกลิ่นพิมเสนเป็นเวลานาน ประกอบกับการนำพินเสนมาไว้ในรถยนต์ที่มีสภาพปิดและมีอุณหภูมิร้อน ส่งผลให้สรรพคุณของพินเสนกลายเป็นพิษต่อร่างกาย ฉะนั้นไม่แปลกที่ผู้ใช้รถเกิดอาการเวียนหัว ระคายเคืองบริเวณดวงตา คลื่นไส้จากอาการแพ้ หากอาการรุนแรงอาจถึงขั้นอาเจียน

(2) ทำให้เกิดอาการอ่อนเพลียหรือง่วงนอน

นอกจากการบูร พินเสน ในน้ำหอมมีสารเคมีบางชนิดที่เมื่อถูกสูดดมเข้าร่างกายเป็นเวลานาน ก่อให้เกิดอาการอ่อนเพลียหรืออาการง่วงนอน เสี่ยงเกิดการหลับในขณะขับรถ อันนำไปสู่อุบัติเหตุบนท้องถนนในที่สุด โดยเรื่องนี้สามารถแก้ปัญหาได้ง่าย ๆ เพียงเลื่อนกระจกรถลงเล็กน้อยเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก

(3) อาจก่อให้เกิดมะเร็ง

น้ำหอมติดรถยนต์หลายยี่ห้อมีสารเคมีเป็นส่วนผสมหลักของน้ำหอม หากสูดดมสารเคมีเข้าสู่ร่างกายเป็นระยะเวลานาน สามารถพัฒนากลายเป็นสารก่อมะเร็งได้เช่นกัน ฉะนั้นก่อนเลือกซื้อน้ำหอมติดรถยนต์ ควรเช็คส่วนผสมหรือสารประกอบหลักของน้ำหอมด้วยเพื่อสุขภาพที่ดีของคุณเอง

หากต้องใช้น้ำหอมติดรถ มีวิธีแก้ปัญหาอย่างไร

แม้น้ำหอมมีผลเสียต่อระบบปรับอากาศของรถยนต์จริง แต่ตัวน้ำหอมไม่ได้เป็นสาเหตุหลักที่สร้างความเสียหายโดยตรง ฉะนั้นการเลือกใช้น้ำหอมปรับอากาศในรถเพื่อดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ก็ไม่ใช่เรื่องผิด เพียงผู้ใช้รถหมั่นทำความสะอาดอย่างล้างคอยล์เย็นแอร์ เปลี่ยนไส้กรองแอร์ตามระยะที่ตัวรถยนต์กำหนดก็ช่วยยืดอายุการใช้งานแอร์รถยนต์ได้

กลิ่นอับในรถ มีวิธีแก้ไขอย่างไรโดยไม่ใช้น้ำหอม

วิธีแก้ปัญหากลิ่นอับในรถ 

เมื่อเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในรถยนต์ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่อยากใช้น้ำมันหอมระเหย เพราะกลัวเกิดปัญหาแอร์ตัน หรือปัญหาสุขภาพตามมาภายหลัง มีทริคที่ช่วยดับกลิ่นในรถยนต์มาแนะนำ

(1) จอดรถตากแดด

วิธีนี้สามารถทำได้ง่าย ๆ แบบไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมอะไร เพียงรอวันที่มีแดดจัดแล้วนำรถไปจอดไว้กลางแจ้ง พร้อมเปิดประตูทุกบาน ฝากระโปรงด้านท้าย รวมถึงหลังคาซันรูฟ (ถ้ามี) โดยอาจจอดรถทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที เพื่อให้แสงแดดช่วยดับกลิ่นในรถยนต์

(2) ขับรถเปิดกระจก

การขับรถเปิดกระจกแม้เพียงเล็กน้อยก็ช่วยระบายกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ออกไป แต่แนะนำว่าควรใช้วิธีนี้ตอนที่ถนนโล่ง ๆ เพื่อไม่ให้กลิ่นเหม็นจากควันรถเข้ามาด้านในแทน

(3) ซักเบาะและพรมในรถ

บางครั้งกลิ่นในรถยนต์ก็เกิดจากความอับชื้น เช่น ทำน้ำหกบนพรมหรือเบาะ แม้เช็ดน้ำออกหมดแล้ว แต่กลิ่นยังติดฝังแน่น ดังนั้นการซักเบาะ พรม ดูดฝุ่นและสิ่งสกปรกตามซอกมุมต่าง ๆ ก็ช่วยแก้ปัญหากลิ่นอับได้เช่นกัน

(4) ใช้สมุนไพรหรือดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม 

สมุนไพรหรือดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม ไม่ว่าจะเป็น ตะไคร้ ใบมะกรูด ใบเตย ดอกมะลิ ดอกจำปา หรือดอกจำปีช่วยดับกลิ่นเหม็นในรถได้เช่นกัน หรือเลือกถ่านไม้ที่มีคุณสมบัติในการดูดกลิ่นมาวางตามมุมต่าง ๆ ภายในรถ ช่วยดูดซับกลิ่นอับได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

รู้แบบนี้แล้ว ผู้ใช้รถที่วางแผนซื้อน้ำหอมหรือน้ำมันหอมระเหยมาใส่ไว้ในรถ ลองพิจารณาข้อดี ข้อเสียอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อไม่ให้น้ำหอมส่งผลเสียต่อรถยนต์รวมไปถึงร่างกายของตัวเอง นอกจากนี้การตรวจเช็คสภาพรถทุกครั้งก่อนออกเดินทาง ไปจนถึงการทำประกันภัยรถยนต์ก็สำคัญไม่แพ้กัน หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมาในอนาคตไม่ว่าเพียงเล็กน้อยหรือรุนแรง ก็อุ่นใจได้ว่ามีบริษัทประกันภัยเข้ามาช่วยดูแลค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตามแผนประกันที่ซื้อไว้ ฮักส์มีแผนประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 2+ ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 3+  หรือแผนประกันภัย พ.ร.บ. รถยนต์ของแต่ละบริษัทให้คุณเลือกเปรียบเทียบความคุ้มครองภายในเว็บเดียวจบ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0 2975 5855