อย่าลืมเช็ค อายุการใช้งานช่วงล่างรถยนต์ ควรเปลี่ยนเมื่อไหร่

เขียนเมื่อวันที่ 01/12/2021

จดลิสต์ไว้ อะไหล่ที่ควรเปลี่ยน หลังใช้รถมาระยะหนึ่ง

สิ่งที่ผู้ใช้รถยนต์ควรคำนึงถึงนอกจากเรื่องกฎจราจร การต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ และประกันภัยรถยนต์ นั่นคือการดูแลรักษารถยนต์ในส่วนของอะไหล่รถให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา เพราะอะไหล่รถยนต์แต่ละชิ้นมีอายุการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ฉะนั้นผู้ใช้รถควรหมั่นตรวจสอบว่ามีอะไหล่รถส่วนใดบ้างที่ยังทำงานได้ปกติหรือเริ่มเสื่อมสภาพ เพื่อให้เปลี่ยนอะไหล่ได้ทันก่อนเกิดความชำรุดเสียหายจนนำไปสู่อุบัติเหตุบนท้องถนนในอนาคต แต่ถ้ารถยนต์คันไหนทำประกันภัยอะไหล่รถยนต์จะช่วยแบ่งเบาภาระเรื่องค่าซ่อมได้ไม่น้อยทีเดียว เพราะบริษัทประกันภัยจะเข้ามารับผิดชอบค่าใช้จ่ายตามแผนกรมธรรม์ที่ซื้อไว้ และวันนี้ HUGS Insurance มีความรู้เกี่ยวกับอะไหล่รถยนต์มาฝาก เพื่อให้รู้ว่าควรเปลี่ยนเมื่อไหร่

เซฟไว้กันลืม อะไหล่รถยนต์แต่ละส่วน ควรเปลี่ยนเมื่อใด

ไม่ว่ารถยนต์ของคุณถูกใช้งานเป็นประจำหรือจอดทิ้งไว้เป็นเวลานาน ล้วนทำให้อะไหล่ชำรุดไปตามกาลเวลาไม่ต่างกัน ดังนั้นเพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยควรเปลี่ยนอะไหล่เมื่อครบอายุการใช้งาน นั่นคือเมื่อใช้งานรถยนต์มาแล้วประมาณ 1-3 ปี หรือวิ่งได้ระยะทางประมาณ 20,000 กิโลเมตรขึ้นไป แม้อะไหล่บางชิ้นยังไม่พังก็ตาม

แบตเตอรี่

แบตเตอรี่เป็นชิ้นส่วนสำคัญที่รถทุกคันต้องมี

แบตเตอรี่ที่มีให้เลือกใช้งานอยู่ทุกวันนี้ มีทั้งแบบแห้งและแบบเปียกซึ่งวิธีการดูแลก็แตกต่างกัน อย่างแบตเตอรี่แบบแห้งไม่จำเป็นต้องได้รับการดูแลอะไรมากเพียงแต่มีราคาแพงมากกว่าแบบเเปียก ขณะที่แบตเตอรี่แบบเปียกต้องคอยเติมน้ำกลั่นให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดเสมอ แต่ไม่ว่าอย่างไรผู้ใช้รถควรหมั่นตรวจเช็คแบตอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง รวมถึงอายุการใช้งานแบตเตอรี่อยู่ที่ประมาณ 2-3 ปี นอกจากนี้ยังมีสัญญาณที่บ่งบอกว่าถึงเวลาต้องทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ เช่น

• เวลาสตาร์ทรถแล้วรู้สึกว่ารถสตาร์ทติดยากกว่าปกติ และมีเสียงดังแชะ ๆ ตลอดเวลา
• ไฟหน้ารถมีแสงน้อยลง เนื่องจากระบบไฟฟ้าภายในรถมีกำลังอ่อนลง ฯลฯ

หัวเทียน

สำหรับหัวเทียนรถยนต์ มีอายุการใช้งานประมาณ 40,000 กิโลเมตร ฉะนั้นเมื่อรถวิ่งถึงระยะทางดังกล่าวให้ทำการเปลี่ยนหัวเทียนทันที ไม่งั้นคุณอาจต้องหงุดหงิดกับอาการกระตุกเวลาขับขี่

ผ้าเบรก

ผ้าเบรกถือเป็นอะไหล่ชิ้นสำคัญที่ช่วยในการหยุดรถ ฉะนั้นควรให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ หากใช้งานรถจนถึงระยะทางประมาณ 50,000-70,000 กิโลเมตร หรือได้ยินเสียงดังขณะเหยียบเบรก ควรรีบเปลี่ยนผ้าเบรกใหม่ทันที เพราะถ้าฝืนใช้งานต่อนอกจากเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุรถชนกันยังทำให้จานเบรกได้รับความเสียหาย

ไส้กรองอากาศ

ตามปกติไส้กรองอากาศทำหน้าที่ในการกรองสิ่งสกปรกในอากาศไม่ให้หลุดเข้าไปภายในเครื่องยนต์ของรถ เพื่อป้องกันปัญหาเครื่องยนต์อุดตัน ซึ่งผู้ใช้รถสามารถยืดอายุไส้กรองอากาศด้วยการเป่าทำความสะอาดทุก ๆ 3,000-5,000 กิโลเมตร แล้วค่อยเปลี่ยนไส้กรองอากาศใหม่เมื่อใช้งานถึงระยะ 20,000 กิโลเมตร หรือ 1 ปี

น้ำมันเครื่องและไส้กรองน้ำมันเครื่อง

หากน้ำมันเครื่องพร่องผู้ใช้รถสามารถเติมเองได้

น้ำมันเครื่องเป็นสารหล่อลื่นที่ช่วยลดอุณหภูมิในบริเวณที่มีความร้อนสูง เช่น ผนังกระบอกสูบ หรือกระบอกสูบ เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นจุดที่มีความร้อนมากเป็นพิเศษภายในเครื่องยนต์ ฉะนั้นเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ใช้รถควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุก ๆ 6 เดือน หรือเมื่อวิ่งครบระยะ 5,000-10,000 กิโลเมตร (ขึ้นอยู่กับประเภทน้ำมันที่ใช้) หรือพบว่าน้ำมันเครื่องเปลี่ยนเป็นสีดำสนิทก็สามารถเปลี่ยนได้เลย เพราะนี่เป็นสัญญาณเตือนว่าน้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพแล้ว โดยเมื่อเปลี่ยนน้ำมันเครื่องแล้วแนะนำให้เปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องไปพร้อมกันเลย

ยางปัดน้ำฝน

ยางปัดน้ำฝนถือเป็นอะไหล่รถที่มีการเสื่อมสภาพได้ง่ายมาก เนื่องจากเป็นชิ้นส่วนที่โดนแสงแดดมากที่สุด จนทำให้ใบปัดแข็งกวาดน้ำบนกระจกไม่ได้หมด ทั้งบางครั้งอาจก่อให้เกิดรอยขูดยาวบนกระจกเมื่อฝืนใช้งานยางปัดน้ำฝนที่เสื่อมสภาพ แนะนำว่าควรเปลี่ยนทุก ๆ 1 ปี ก่อนเข้าหน้าฝนเพื่อความปลอดภัยหากต้องขับรถขณะฝนตกหนัก

น้ำมันเกียร์

สำหรับเกียร์ธรรมดาควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันตามระยะทางทุก ๆ 20,000 กิโลเมตร ขณะที่เกียร์อัตโนมัติหรือเกียร์ออโต้ให้ทำการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในคู่มือ โดยรถแต่ละรุ่นจะอยู่ที่ประมาณ 40,000-60,000 กิโลเมตร

เมื่อได้รู้กันแล้วว่าอะไหล่รถยนต์แต่ละส่วนมีอายุการใช้งานเท่าใดและควรเปลี่ยนเมื่อไหร่นั้น ผู้ใช้รถอย่าลืมหมั่นตรวจสภาพรถยนต์ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ พร้อมดำเนินการเปลี่ยนอะไหล่รถตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อยืดอายุการใช้งานรถให้อยู่กับคุณได้นานขึ้น นอกจากนี้การทำประกันภัยรถยนต์ควบคู่กับประกันภัยอะไหล่รถยนต์จะช่วยเพิ่มความอุ่นใจในการใช้รถมากขึ้น หากเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุฉุกเฉินจะได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ที่ทำไว้ สำหรับใครที่มองหาแผนประกันภัยที่เหมาะกับรถของคุณ ฮักส์มีผลิตภัณฑ์ประกันภัยหลากหลายบริษัทให้เลือก สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ 0 2975 5855 หรือติดต่อผ่านช่องทาง Facebook และ LINE