แก้ไขตรงจุด บอกลาผิวแห้งเป็นขุยช่วงหน้าหนาว

เขียนเมื่อวันที่ 10/11/2021

ผิวแห้งเป็นจุด ๆ ปัญหาใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม

เมื่ออากาศหนาวมาเยือน นอกจากตื่นเต้นดีใจที่ได้รื้อเสื้อผ้าหนา ๆ เตรียมไว้ใส่ไปปะทะลมหนาวที่ต่างจังหวัดแล้ว หลายคนอาจประสบปัญหาผิวแห้ง เพราะสภาพอากาศที่แห้งส่งผลให้ผิวปรับสภาพไม่ทัน เป็นเหตุให้ผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น บางคนถึงขั้นเกิดอาการคัน แดง และลอกเป็นขุยจากการเกาได้ แม้อาการที่เกิดขึ้นดูไม่รุนแรง แต่หากปล่อยปะละเลยอาจเป็นจุดเริ่มต้นทำให้เกิดโรคผิวหนังอื่น ๆ ตามมาได้ ที่สำคัญปัญหาผิวแห้งเป็นขุยไม่ได้มีสาเหตุมาจากสภาพอากาศเพียงอย่างเดียว ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้ผิวเราแห้ง โดยวันนี้ Hugs Insurance จะพาไปดูสาเหตุ และวิธีดูแลผิวแห้งอย่างถูกต้อง เพื่อรักษาสุขภาพผิวและคงความชุ่มชื้นของผิวหนัง

สาเหตุที่ทำให้ผิวแห้ง เกิดจากอะไร

ปัญหาผิวแห้งเสีย เกิดจากการที่มีน้ำในผิวหนังชั้นหนังกำพร้าลดลงทำให้เกิดภาวะผิวแห้งตึง นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่เป็นสาเหตุให้สภาพผิวแห้งเสียหรือแตกเป็นขุย ดังนี้

ปัจจัยภายในที่ทำให้ผิวแห้ง

พันธุกรรม : โรคบางชนิดทำให้เกิดปัญหาผิวแห้งและสามารถเกิดขึ้นได้จากพันธุกรรม เช่น ผู้ที่เป็นผิวหนังอักเสบหรือภูมิแพ้ที่ผิวหนัง และโรคสะเก็ดเงิน

ฮอร์โมน : การเปลี่ยนแปลงของปริมาณฮอร์โมน เช่น ระยะตั้งครรภ์ หรืออยู่ในภาวะหมดประจำเดือน

อายุ : เมื่ออายุมากขึ้นร่างกายผลิตไขมันในผิวลดลง เป็นผลให้ชั้นปกป้องผิวอ่อนแอ ทำให้สูญเสียน้ำออกจากผิวมากขึ้น จนผิวขาดความชุ่มชื้นและอาจลอกเป็นขุยได้ 

อาหาร : หลายคนอาจไม่รู้ว่าพฤติกรรมการเลือกรับประทาน อาจนำไปสู่ผิวแห้งมากเนื่องจากขาดวิตามินหรือได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ

ปัจจัยภายนอกที่ทำให้ผิวแห้ง

การทำความสะอาดผิวบ่อย ๆ : ใครจะเชื่อว่าการอาบน้ำเพื่อทำความสะอาดร่างกายหรือล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์หลังสัมผัสสิ่งของต่าง ๆ นั้น คือ การชำระล้างไขมันที่จำเป็นในผิวออกไป จนทำให้ผิวอ่อนแอ สูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่ายขึ้น รวมถึงการอาบน้ำอุ่น แช่น้ำร้อนเป็นประจำก็มีส่วนทำร้ายผิวเช่นกัน

สภาพอากาศ : การเปลี่ยนแปลงของอากาศมักตามด้วยปัญหาผิวแห้งเสีย โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวหรือช่วงที่อากาศแห้ง เป็นสถานการณ์ที่ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย และทำให้ผิวแห้งมากขึ้น

เครื่องปรับอากาศ : การนั่งทำงานอยู่ในห้องแอร์ตลอดเวลาเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดสภาวะผิวขาดน้ำ เพราะเครื่องปรับอากาศดึงความชื้นในอากาศออกไป ทำให้อากาศแห้งเป็นผลให้เกิดปัญหาผิวแห้งกร้าน เกิดอาการคัน ระคายเคือง ผดผื่น รวมถึงเกิดอาการอักเสบของผิว

ดื่มน้ำน้อย : น้ำเป็นองค์ประกอบสำคัญของร่างกาย หากดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอจะทำให้ผิวชุ่มชื้น แต่ถ้าดื่มน้ำน้อยกว่านั้น นอกจากทำให้ผิวแห้ง ร่างกายขาดน้ำ ยังรู้สึกอ่อนเพลียอีกด้วย

สามารถป้องกันภาวะผิวแห้งได้อย่างไร

ดื่มน้ำเปล่าในปริมาณที่เหมาะสม ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นสุขภาพดี

(1) ควรดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมอย่างน้อย  6 - 8 แก้วต่อวัน เพราะน้ำเข้าไปช่วยเติมความชุ่มชื่นให้ผิว ลดการอักเสบและระคายเคืองของผิวหนัง ทั้งยังช่วยในเรื่องของการขับถ่าย ไปจนถึงในเรื่องของสุขภาพในด้านอื่น ๆ ให้ดีมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหากไม่อยากมีปัญหาสุขภาพตามมาในอนาคต แนะนำให้ดื่มน้ำในปริมาณที่พอเหมาะในแต่ละวัน

(2) งดทานอาหารบางประเภท เนื่องจากปัญหาผิวแห้งบางครั้งมีสาเหตุมาจากอาหารที่ทานเข้าไปเป็นประจำ ส่วนอาหารที่ห้ามกินมีอะไรบ้างนั้น มาดูกัน

• ผักหรือผลไม้ดอง เพราะมีสารประกอบอย่างเกลือและขัณฑสกร (ดีน้ำตาล) ในปริมาณที่ค่อนข้างสูง ทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพผิว เนื่องจากร่างกายขาดน้ำรุนแรง หลังรับเกลือเข้าสู่ร่างกายมากเกินไป 
• อาหารที่มีรสหวานจัด ไม่ว่าจะเป็นขนมเค้ก บิงซู ขนมหวาน หรืออาหารอื่นๆ ที่มีน้ำตาลสูง นอกจากส่งผลต่อน้ำหนักตัวและเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานแล้ว ความหวานเหล่านี้ยังไปทำลายคอลลาเจนในชั้นผิวที่มีหน้าที่รักษาความกระชับและความยืดหยุ่นของผิวหนัง เป็นผลให้ผิวแห้ง ขาดความยืดหยุ่น
• กาแฟ แม้กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่ขาดไม่ได้สำหรับวัยทำงาน เพราะมีทั้งกลิ่นหอมแล้วช่วยให้รู้สึกตื่นตัว มีแรงทำงานต่อ ถึงอย่างนั้นการดื่มกาแฟมากเกินไป ก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพผิวไม่น้อย เนื่องจากทำให้ผิวขาดน้ำ ส่งผลให้ผิวแห้งและหยาบกร้าน

(3) ฟื้นฟูสภาพผิวด้วยวิตามิน เชื่อว่าบางคนอาจไม่รู้ว่าหนึ่งในปัญหาผิวแห้งแตกเป็นขุยนั้น มีสาเหตุมาจากขาดวิตามินบางชนิด ดังนั้นลองมาดูลิสต์รายชื่ออาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายว่ามีอะไรบ้าง

• วิตามินอี : อาหารที่เป็นแหล่งรวมของวิตามินอี เช่น มะม่วง กีวี่ หรือกล้วย
• วิตามินเอ : นอกจากเรื่องของการช่วยบำรุงสายตาแล้ว วิตามินเอยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้กับผิว ทำให้ผิวไม่แห้งเสีย โดยสามารถพบวิตามินเอได้ในเนื้อสัตว์ ไข่แดง ตับ และผักใบเขียว 
• วิตามินซี : เป็นหนึ่งในวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยวิตามินซีพบมากในผักและผลไม้สดต่าง ๆ เช่น ดอกกะหล่ำ ถั่วลันเตา ผักกาดขาว ผักคะน้า เชอรี ส้ม ฝรั่ง และส้มโอ

(4) ทานอาหารที่มีโอเมก้า 3 เป็นกรดไขมันที่ช่วยเสริมสร้างชั้นน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติ ฉะนั้นการทานอาหารที่มีโอเมก้า 3 สูง ถือเป็นวิธีบำรุงผิวพรรณที่ใครก็ทำได้ โดยอาหารที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 เช่น ปลาแซลมอน ปลาซาดีน วอลนัท และน้ำมันดอกคำฝอย

ครีมบำรุงผิว ผู้ช่วยจำเป็นที่เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวแห้ง

(5) ควรทาครีมบำรุงผิวทันทีหลังอาบน้ำหรือล้างหน้าเสร็จ เพราะนี่เป็นช่วงเวลาที่ผิวเปิดทำให้ครีมซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ควรเลือกใช้ครีมบำรุงผิวที่มีคุณสมบัติเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม สารกันเสียหรือมีสีเจือปนอยู่ เนื่องจากอาจก่อให้เกิดอาการระคายเคืองกับผิวได้

(6) กรณีที่ผิวแห้งมากจนเกิดอาการแสบคัน แตก ลอกเป็นขุยหรือมีการอักเสบของผิวเกิดขึ้น แนะนำให้รีบไปพบแพทย์เนื่องจากอาการดังกล่าวอาจจำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยยาสเตียรอยด์ เพื่อลดการอักเสบของผิวหนังและยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาภาวะติดเชื้อของผิวหนัง

เมื่อรู้ถึงสาเหตุและวิธีป้องกันภาวะผิวแห้งกันไปแล้ว ใครกำลังเผชิญปัญหาดังกล่าวลองทำตามคำแนะนำข้างต้น รับรองได้เลยว่าผิวที่เคยแห้งจะกลับมาน่าสัมผัสได้เหมือนเคยอย่างแน่นอน หมั่นเอาใจใส่ดูแลตนเองอย่างเป็นประจำ ในขณะเดียวกันคุณสามารถเพิ่มความอุ่นใจยามเจ็บป่วยผ่านการทำประกันภัยสุขภาพที่เข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระค่ารักษาพยาบาลหากเกิดปัญหาผิวแห้งรุนแรงจนต้องไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษา และฮักส์มีกรมธรรม์ประกันภัยสุขภาพหลากหลายตอบทุกไลฟ์สไตล์การดำเนินชีวิตและความคุ้มครองในแบบที่ต้องการ ติดต่อได้ทาง Facebook Line หรือโทร 0 2975 5855